ยิ่งใกล้เลือกตั้งใหญ่ของบ้านเราทำให้ผมได้รับรู้รับทราบถึง
"วิสัยทัศน์" ของนักการเมือง "ไทย" ประเภท "หน้าซ้ำ -น้ำเน่า"
ที่มีอยู่ดาษดื่นในบ้านเราทำให้ในใจลึก ๆ ของผมก็ยิ่งนึกถึง "วิสัยทัศน์" ของนักการเมือง
"สิงคโปร์" ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะอย่างยิ่ง จอร์ช เอี๋ยว ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ (ที่พึ่งสอบตกจากการเลือกตั้งที่เพิ่งผ่านมาหมาด
ๆ) ก็ยิ่งได้เห็นมุมมองที่น่าสนใจของนักการเมือง "สิงคโปร์" หลากหลายประเด็นโดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับศาสนาต่าง
ๆ ที่เชื่อมโยงไปเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยภายในชาติของเขา
รัฐบาล "สิงคโปร์" ให้ความสำคัญกับประชากรในชาติที่ต่างก็นับถือศาสนากันหลากหลายอย่างน้อย
10 ศาสนาทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องกำกับดูแลมิให้ศาสนาใดศาสนาหนึ่งมีบทบาทมากเกินไป
(จนเบียดเบียนศาสนาอื่น) โดยไม่ได้ห้ามหรือจำกัดสิทธิในหลักสำคัญของแต่ละศาสนา แต่ที่น่าสนใจคือ
ที่นี่ไม่มีการเปิดเครื่องขยายเสียงผ่านลำโพงเรียกใช้ชาวมุสลิมไปสวดมนต์เหมือนประเทศอื่น
(แต่ทางการแนะนำว่าให้หันลำโพงเข้าข้างในและให้ชาวมุสลิมสามารถเปิดเครื่องรับวิทยุรับฟังได้)
ในขณะที่ชาวมุสลิมก็ได้รับประโยชน์ตามความประสงค์โดยไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิของคนที่นับถือศาสนาอื่น
แต่ในขณะเดียวกันก็ให้เสรีภาพในการนับถือศาสนาต่าง ๆ เช่น อนุญาตให้ชายชาวมุสลิมมีภรรยาได้
4 คนตามความเชื่อทางศาสนา แต่ไม่อนุญาตให้นักเรียนหญิงใส่ผ้าคลุมหน้าไปโรงเรียน ในขณะเดียวกันก็ไม่ไปก้าวก่ายในสิทธิของชาวซิกข์ที่โพกศีรษะเนื่องจากเป็นจารีตประเพณีปฏิบัติกันมาตั้งแต่เด็ก
แต่เรื่องการคลุมหน้าของนักเรียนหญิงมุสลิมนั้นเพิ่งถูกนำมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเมื่อไม่นานมานี้
ที่น่าสนใจ
คือ "วิสัยทัศน์" ในการ "สานประโยชน์" ที่เป็นไป "อย่างเท่าเทียมบนความต่าง"
ซึ่งนักการเมือง "สิงคโปร์" ท่านนี้อธิบายว่ามี "ความเสมอภาคในความไม่เสมอภาค" ดังนั้นก็อย่าพยายามทำเรื่องที่ไม่เท่าเทียมกันให้เท่ากันเพียงเพื่อที่จะรักษาความเสมอภาค โดยเด็ดขาดเพราะในทางปฏิบัติไม่มีทางเป็นไปได้ อีกทั้งในทางปฏิบัติมีหลายอย่างที่ยากในการที่จะบัญญัติเป็นตัวบทกฎหมายให้ครอบคลุมไปทุกมิติ
ดังนั้นกลุ่มศาสนาในแต่ละกลุ่มจำเป็นที่จะต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันและไว้วางใจกันในฐานะที่เป็นประชากรอาศัยในประเทศเดียวกันและในฐานะที่เป็นรัฐบาลจำเป็นต้องมีจุดยืนที่แน่นอนโดยไม่เอนเอียงไปข้างหนึ่งข้างใด
ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของความเชื่อในแต่ละศาสนาแต่จะต้องลงไปสู่ความรู้สึกด้วย เพราะทุกศาสนามีพื้นฐานความเชื่อและการปฏิบัติไม่เหมือนกัน ดังนั้นการปฏิบัติของรัฐบาลต่อประชากรที่นับถือศาสนาต่าง
ๆ ก็ย่อมไม่เหมือนกันเปรียบเสมือน พ่อแม่ที่รักลูกเท่ากันแต่ปฏิบัติต่อลูกแต่ละคนไม่เหมือนกันฉันใดก็ฉันท์นั้น
ในสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นใน
"สิงคโปร์" ในบางกลุ่มศาสนาก็มีความระแวงกันในเรื่องการใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ทั้งในด้านสถานภาพทางสังคม,
ด้านการเมืองและด้านเศรษฐกิจ ตลอดจนการบังคับทั้งทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้คนเข้ารีตเปลี่ยนศาสนา
ซึ่งในประเด็นนี้รัฐบาล "สิงคโปร์" ดูจะก้าวล้ำหน้ากว่าบ้านเราไปมาก หากมีกรณีที่ศาสนาใด
พยายามที่จะแทรกแซงศาสนาอื่น รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสามารถสั่งห้ามพฤติกรรมดังกล่าวได้
และหากศาสนานั้นไม่ยอมรับก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมที่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นตัวแทนของศาสนาต่าง
ๆ พิจารณาในประเด็นนั้น ๆ ร่วมกัน ดังนั้นในบางครั้งเมื่อรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องพิจารณาในบางประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนก็สามารถขอความร่วมมือจากผู้นำทางศาสนาต่าง
ๆ ได้ ในทางปฏิบัติจึงกล่าวได้ว่าอิสรภาพในการเผยแพร่ศาสนาต่าง ๆ ใน "สิงคโปร์"นั้นมีเพียง
90 เปอร์เซ็นต์ไม่เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเปรียบกับของ "ไทย" เราให้อิสรภาพเกิน
100 เปอร์เซ็นต์ ก็เลยมีการล้ำเส้นส่งผลให้ "สังคมไทย" สับสนวุ่นวายกันจนถึงปัจจุบันนี้ครับ
หลายปีผ่านไปผมได้เห็นความเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเจริญเติบโตทางวัตถุและการความก้าวล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของ "สิงคโปร์" ที่รุดหน้าไปมาก อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ "สิงคโปร์" อาจด้อยกว่า
"ไทย" ในรากฐานอันยาวนานทางด้าน "วัฒนธรรม" แต่ในด้านความชัดเจนของ
"วิสัยทัศน์" ของนักการเมือง "สิงคโปร์" ที่สามารถรวมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันรวมทั้ง
"วิสัยทัศน์" ในการยอมรับความ "แตกต่างแต่ไม่แตกแยก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างความปรองดองของบรรดาผู้คนในชาติ
ซึ่งแน่นอนหมายถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นเรื่องที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น "วิสัยทัศน์" ที่น่าทึ่งในการบริหารจัดการให้ประชาชนที่มีพื้นฐานความเชื่อแตกต่างกันสามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขบนเกาะเล็ก
ๆ แห่งนี้ ซึ่งในประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ บรรดานักการเมืองประเภท "หน้าซ้ำ-น้ำเน่า"
ของ "ไทย" คงต้องเรียนรู้จาก "สิงคโปร์" อีกมากครับ
|