 บุคคลที่ไม่ประสงค์ดีแอบอ้างใช้ชื่ออาจารย์เชี่ยว ชอบช่วย หรือ ผศ.ดร.ภัทรพล เวทยสุภรณ์ และสำนักงานบ้านไม่บานไปใช้ในการหลอกลวงให้หลงเชื่อในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์,การออกแบบ,การก่อสร้าง ฯลฯ ซึ่งทางสำนักงานบ้านไม่บานไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น หากท่านต้องการติดต่อกับทางสำนักงานต้องติดต่อโดยตรงที่เบอร์ 02-2451399 หรือ 02-6441478 เท่านั้น |
|
|
 |
ครบรอบ 120 ปี "ศิลป์ พีระศรี" |
|
|
สวัสดีครับแฟน
ๆ ชาว "บ้านไม่บาน" สำหรับสาระน่ารู้ในสัปดาห์นี้ก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากมีแฟนชาว
"บ้านไม่บาน" ท่านหนึ่งได้แจ้งความประสงค์มายังผม ให้ช่วยไขปัญหาข้อข้องใจ เนื่องจากแฟนท่านนี้ก็อายุอานามเลยวัยกลางคนไปมากแล้ว
อีกไม่กี่ปีก็จะเกษียณอายุ และมีบ้านชั้นเดียวตั้งอยู่กลางกรุงหลังหนึ่ง บนพื้นที่ดิน
80 ตารางวา สภาพบ้านก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาและอายุของเจ้าของบ้านครับ ก็คอยซ่อมแซมบำรุงกันไป
กว่า 30 ปี ซ่อมจนแทบจะซ่อมอะไรไม่ได้แล้ว บางอย่างก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยให้ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
จากเดิมที่พื้นถนนสาธารณะหน้าบ้านที่เคยอยู่ต่ำกว่าพื้นบ้าน ไป ๆ มา ๆ พื้นถนนสาธารณะที่
กทม.ปรับปรุงใหม่ก็ยกสูงกว่าพื้นบ้าน ทำให้ในช่วงหน้าฝน ในกรณีที่ฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมง
ก็เกิดสภาพน้ำท่วมขัง แทนที่น้ำในบ้านจะไหลออกไปสู่ท่อระบายน้ำในถนน แต่ในทางกลับกัน
น้ำจากถนนกลับไหลเข้าบ้านครับ เพราะระดับของพื้นบ้านต่ำกว่าถนน ก็ทนทุกข์ทรมานกันมานานหลายปี

สำหรับครอบครัวของชาว
"บ้านไม่บาน" ท่านนี้เป็นครอบครัวขนาดเล็กครับ มีลูก 2 คน ก็วิริยะอุตสาหะส่งลูกจนสำเร็จปริญญาทุกคน
พอจบแล้วก็ประกอบ "สัมมาอาชีวะ" แบบ "พอเพียง" ครับ เป็นชน "ชั้นกลาง"
ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไป หลังจากที่ผมได้รับฟังปัญหาของ "คนรักบ้าน" ท่านนี้
ก็เลยแนะนำว่า เมื่อบ้านชั้นเดียวที่อยู่อาศัยชำรุดทรุดโทรมลงไปเกินกว่าจะเยียวยาแก้ไข
ก็เลยคิดว่าไม่ต้องทำการซ่อมแซมกันอีกต่อไป ให้คิดการใหญ่สร้างขึ้นใหม่บนพื้นที่เดิมน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าและน่าสนใจกว่า
เพราะมีพื้นที่ดินค่อนข้างจะกว้างขวาง ถึง 80 ตารางวา ผมจึงเสนอให้ทำ "บ้านไม่บานกลางกรุง"
ในสไตล์ "โฮมส์ออฟฟิศไม่บาน" ความสูง 4 ชั้น ที่แต่ละคูหามีหน้ากว้างขนาด 4
เมตร ตัวอาคารลึกประมาณ 12 เมตร เว้นด้านหลังไว้อย่างน้อย 3 เมตร (ตามพรบ.ควบคุมอาคาร)
และด้านหน้าอีก 5 เมตร สำหรับจอดรถ (ก็จะทำให้พื้นที่ดินลึก 20 เมตร) และด้านหน้าเป็นคูหาละ
4 เมตร ระยะร่นอีกด้านละ 2 เมตร (ตามพรบ.ควบคุมอาคาร) จะเห็นว่าพื้นที่ด้านหน้าจะต้องกว้างอย่างน้อย
16 เมตร และความลึกอย่างน้อย 20 เมตร ผมลองเอา 16 เมตร x 20 เมตร
แล้วหารด้วย 4 จะเห็นว่าพื้นที่ดินจะได้ 80 ตารางวา พอดิบพอดีเลยครับ
ทางเจ้าของบ้านก็ถามผมว่า
ทำไมต้องทำเป็น "โฮมส์ออฟฟิศ" 3 ห้อง ก็มีเหตุผลหลัก ๆ ของผมอยู่ 3 ประการครับ
ประการที่ 1 ขนาดหน้ากว้างของที่ดินวัดจากโฉนดก็ได้ประมาณ 16 เมตร จะเห็นได้ว่าขนาดที่ดินลงตัวสามารถทำ
"โฮมส์ออฟฟิศไม่บาน" ได้ 3 ห้องพอดีเลยครับ ประการที่ 2 ครอบครัวนี้มีลูกอยู่
2 คน ก็ทำให้สามารถแบ่งให้กับลูก ๆ ได้ไปคนละ 1 คูหา สามารถนำไปประกอบสัมมาอาชีวะตามแนวทางที่ตนถนัด
รวมทั้งใช้เป็นที่พักอาศัย เพราะในปัจจุบันที่ดินใจกลางกรุงนั้นมีราคาแพงขึ้นมากครับ
หากจะต้องซื้อบ้านหลังใหม่หรือทาวเฮ้าส์หลังใหม่ คงต้องอยู่ออกไปไกลลิบถึงชานเมือง
และนอกจากนั้นเหลืออีก 1 คูหา เจ้าของบ้านก็จะมีที่พักส่วนตัวเป็นการ "ไพรเวท"
ไม่ต้องไปวุ่นวายกับลูก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อลูก ๆ มีครอบครัวแล้วก็อาจจะต้องการความเป็นส่วนตัว
สำหรับประการที่ 3 การที่ผมได้แบ่งที่ดิน 80 ตารางวา ออกเป็น 3 โฉนด เพื่อให้เกิดความคล่องตัว
ในยามขาดสภาพคล่องก็สามารถนำเอาที่ดินนี้ไปจดจำนองกับทางธนาคารเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในกิจการงานที่สมควร

จะว่าไปแล้วบ้านที่สร้างขึ้นเมื่อ
30 - 40 ปี ที่แล้วส่วนใหญ่ก็มักจะตกอยู่ในสภาพนี้ครับ คือสภาพโดยรวมของบ้านก็จะทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลา
อีกทั้งพื้นที่ใช้สอยในบ้านก็มักจะไม่พอเพียงกับจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น และบ้านเหล่านี้ในอดีตเคยตั้งอยู่ชานกรุง
แต่ในปัจจุบันตั้งอยู่ใจกลางกรุง จัดว่าเป็นย่านทำเลทองที่การคมนาคมสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกสบาย
การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากบ้านชั้นเดียว เป็น "โฮมส์ออฟฟิศไม่บาน" ขนาด 3 คูหา
4 ชั้น ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ดีกว่าเดิมและสามารถตอบโจทย์ให้กับสมาชิกทุกคนในครอบครัว
และที่สำคัญที่สุดบรรดาสมาชิกของ "บ้านไม่บาน" หลังนี้ก็ไม่ตกอยู่ในสภาวะบ้านแตกสาแหรกขาด
พ่อ แม่ ลูก ๆ ก็ยังอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันภายในร่มไม้ชายคาเดียวกัน และสามารถสร้างครอบครัวใหม่บนผืนดินเดิม
ก็ถือว่าถึงพร้อมครับ ผลคือแฮปปี้กันทุกฝ่าย คือ ทั้งผมและแฟน ๆ ชาว "บ้านไม่บาน"
ท่านนี้ รวมไปถึงบรรดาลูก ๆ ก็ได้มีบ้านใหม่ในรูปแบบ "โฮมส์ออฟฟิศไม่บาน" ซึ่งเป็นพื้นที่ดินดั้งเดิมของเขาเอง
เพียงแค่แยกส่วนออกมาจากพื้นที่ของพ่อและแม่ เพราะผมได้ออกแบบเตรียมไว้ถึง 3 คูหาครับ
ก็หวังว่าคงสามารถตอบโจทย์ให้กับบรรดาแฟน ๆ "คนรักบ้าน" ท่านนี้และอีกหลายท่านที่กำลังประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน
ก็ลองนำเอาแนวคิดของผมนำไปปรับประยุกต์ใช้กันดูก็น่าจะเป็นประโยชน์ครับ
|
|
|