สวัสดีครับแฟนๆชาว "คนรักบ้าน" เมื่อหลายเดือนก่อนมีแฟนท่านหนึ่งได้มีโอกาสเป็นเจ้าของ "ตึกแถว" เก่าสไตล์ "โรมัน" อายุกว่า 15 ปี ย่าน "อินทามระ" และได้ติดต่อมาที่ผมให้ทำการชุบชีวิตใหม่ให้ "ตึกแถว" เก่าที่ถูกทิ้งร้างมายาวนาน จะว่าไปแล้วย่าน "อินทามระ" เมื่อ 10 ปีที่แล้วในภาพรวมก็ยังไม่คึกคักคึกครื้นกันขนาดนี้ ในปัจจุบันก็ถือได้ว่าเป็นย่านใจกลางเมืองครับ ซึ่งดรรชนีชี้วัดที่สำคัญ คือ มีโครงการคอนโดมิเนียมน้อยใหญ่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ด ประกอบกับการคมนาคมสะดวกสบายยิ่งขึ้น เพราะย่าน "อินทามระ" ในปัจจุบันขนาบข้างด้วยระบบขนส่งมวลชนหลายสายที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้ามหานคร บนเส้น "พหลโยธิน" ติดทางด่วน และทางยกระดับ บนเส้น "วิภาวดีรังสิต" จึงทำให้ย่านนี้ที่ในอดีตที่เคยเป็นย่านที่เงียบเหงากลับคึกคักคึกครื้นขึ้นมาครับ

            ครั้งแรกที่ผมได้เข้าไปเยี่ยม "ตึกแถว" ทรง "โรมัน" ย่าน "อินทามระ" แห่งนี้ก็เกิดความประทับใจในทำเลที่ตั้งและโครงสร้างเดิมที่แม้จะถูกทิ้งร้างมานาน จากการที่ผมได้ไปตรวจสอบกับทีมสถาปนิกและวิศวกรก็พบว่าโครงสร้างก็ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์และแข็งแรงดีครับ สำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของอาคารก็เป็นสไตล์ "โรมัน" ที่เป็นที่นิยมกันในอดีตช่วงนั้น ซึ่งก็ยอมรับครับว่าในช่วงนั้นสไตล์ "โรมัน" เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งสถาปนิกรุ่นใหญ่ในยุคนั้นที่เป็นผู้นำในด้านการออกแบบอาคารบ้านเรือนในสไตล์ "โรมัน" ก็คือ "รองศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" ซึ่งตอนนั้นผมเองก็ยังถือว่าเป็นสถาปนิกวัยละอ่อน ก็เดินตาม "เทรนด์" ในยุคนั้น ก็เป็นเหมือนแฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมและเครื่องแต่งกาย รวมทั้งการปลูกบ้านเรือนนั้นก็ต้องตามใจผู้อยู่ใครชอบสไตล์ไหนก็จัดไป จะตามใจสถาปนิกหรือนักออกแบบแต่อย่างเดียวคงไม่ได้ครับ ฉันใดก็ฉันนั้น จะว่าไปแล้วผมก็ได้ไปฝากฝีไม้ลายมือในการออกแบบสไตล์ "โรมัน" ไว้หลายโครงการซึ่งในวงการ สถาปนิก,นักวิชาการบางท่านก็ชอบ บางท่านก็ไม่ชอบ นานาจิตตังครับ ซึ่งโครงการที่ยังประทับใจผมไม่รู้ลืมคือ การที่ผมได้มีส่วนร่วมในการออกแบบหมู่บ้าน "ชิชา คันทรีคลับ" ในย่านถนน "พระราม 2" ตั้งแต่ครั้งที่ถนนเส้นนี้ยังเป็น 2 เลนกันอยู่เลยครับ และรอบ ๆ ข้างก็ยังเต็มไปด้วยสวนผลหมากรากไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวน "ส้มบางมด" ที่ขึ้นชื่อลือชา ถึงแม้จะเป็นส้มที่มีผิวสีออกคล้ำ ๆ กระดำกระด่างแต่ก็จัดได้ว่าเป็นส้มอีกสายพันธุ์ที่อร่อยที่มีรสชาติอร่อยที่สุดในโลกครับ และนับวันจะหาทานยากขึ้นทุกที เพราะชุมชนเมืองในย่าน "พระราม 2" ได้ขยายพื้นที่ออกไปเบียดเบียนพื้นที่สวนส้ม ซึ่งผลงานที่ผมได้ฝากไว้ที่หมู่บ้าน "ชิชา คันทรีคลับ" ก็ยังคงเป็นตำนานเล่าขานถึงอาคารบ้านเรือนสไตล์ "โรมัน" ที่ดีที่สุด,หรูที่สุดและแพงที่สุดในยุคนั้น ก็เป็นเรื่องเล่าจากความทรงจำในอดีตอันเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าประทับใจครับ

            พอผมได้มาเจอ "ตึกแถว" ในสไตล์ "โรมัน" ก็ทำให้ฉุกคิดถึงอดีตคืนวันวานที่หวานอยู่ ซึ่งถ้าวันนี้ใครคิดที่จะทำอาคารบ้านเรือนในสไตล์นี้ก็จะถูกสังคมประณามว่าเชยโคตร ๆ ครับ เพราะเป็นเสมือนแฟชั่นเก่าตกยุคสมัยไปแล้ว ซึ่งทำให้ผมได้ฉุกคิดว่าไม่มีอะไรผิดไปหมดหรือถูกไปหมดหรอกครับ ก็เป็น "กาละ+เทศะ" ที่ต้องปรับตัวกันไปครับ เพื่อให้สามารถตอบโจทย์อันเป็นวิถีชีวิตและรูปแบบที่ร่วมสมัยในการดำรงชีวิตที่คนส่วนใหญ่ในสังคมกำลังนิยมชื่นชอบ ผมจึงตัดสินใจนำเอา "ตึกแถว" ในสไตล์ "โรมัน" มาฟื้นคืนชีพใหม่โดยออกแบบ ให้แปรรูปเป็นสไตล์ "โมเดิร์นคอนเทมโพรารี่" (Modern Contemporary) สุด "ฮิป" ตอบโจทย์ให้คนรุ่นใหม่ที่กำลังเบื่อหน่ายคอนโดฯ อยากอยู่บ้านเดี่ยวในสไตล์ "โฮมออฟฟิศ" เพราะรู้ว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายครับ เพราะในอนาคต "อสังหาฯ" ประเภท "โฮมออฟฟิศ" ในย่านใจกลางเมืองก็จะทวีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นและหายากยิ่งขึ้น เพราะในย่าน "อินทามาระ" นั้นราคาของคอนโดฯ ห้องเล็ก ๆ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 25-30 ตารางเมตร เท่าแมวดิ้นตายก็มีมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาทแล้วครับ

            สำหรับสัปดาห์นี้ก็มาชื่นชมความงามของ "ตึกแถว" สไตล์ "โรมัน" ที่ถูกผมทำให้ฟื้นคืนชีพ แปรรูปกลายเป็น "โฮมออฟฟิศ" สุด "ฮิป" ในย่านใจกลาง "กรุงเทพฯ" คือ ย่าน "อินทามระ" ถือได้ว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้ อยู่ร่วมกับสภาพเศรษฐกิจ สังคมที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างลงตัวแบบพอเหมาะ พอเจาะ พอดี อย่างแท้จริงครับ และผมเชื่อว่าโครงการ "ตึกแถว"สไตล์ "โรมัน" แปรรูปเป็น "โฮมออฟฟิศ" สุด "ฮิป" ในสไตล์ "โมเดิร์นคอนเทมโพรารี่" (Modern Contemporary) ในย่าน "อินทามระ" คงจะเป็นอีก "หนึ่งทางเลือก ที่อาจจะเป็นทางรอด" ของอีกหลายโครงการในลักษณะเดียวกันครับ ส่วนท่านที่สนใจ "ดาวน์โหลด" รูปแบบของ "โฮมออฟฟิศ" หลังนี้ หรือต้องการติดตามสาระน่ารู้ย้อนหลัง ก็สามารถเข้าไปชมในเว็ปไซต์ยอดฮิตของชาว "คนรักบ้าน" ได้ที่ www.homeloverthai.com และ www.chivagroup.com แล้วพบกับสาระน่ารู้กันได้ใหม่อีกสองสัปดาห์หน้าครับ